ใบงานที่ 5 ปริ้นเตอร์

Printer


ประเภทของเครื่องพิมพ์

เครื่องพิมพ์ (Computer printer) คืออุปกรณ์ที่จะแปลการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ออกมาในรูปแบบกระดาษ ทั้งรูปภาพและอักษร เครื่องพิมพ์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1. เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot-matrix printer)

 

เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ การทำงานของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้คือจะใช้การสร้างจุดลงบนกระดาษ ซึ่งหัวพิมพ์จะมีลักษณะเป็นหัวเข็ม เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งตามรูปประกอบนั้นๆ จะยื่นออกมามากกว่าหัวอื่นๆ และกระแทกกับผ้าหมึกลงกระดาษที่ใช้ พิมพ์ จะทำให้เกิดจุดมากมายประกอบกันเป็นรูปเกิดขึ้นมา เครื่องพิมพ์ประเภทนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะมีราคาถูกและคุณภาพเหมาะ สมกับราคา แต่ข้อเสียคือเวลาสั่งพิมพ์จะเกิดเสียดังพอสมควร
เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ ในปัจจุบันส่วนใหญ่ นิยมใช้กันมี 2 แบบ
เครื่องพิมพ์แบบ 9 เข็ม
เครื่องพิมพ์แบบ 24 เข็ม

 หลักการทำงาน
   เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer) เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์เป็นเครื่องพิมพ์ที่นนิยมใช้งานกันแพร่หลายมากที่สุด เนื่องจากราคา และคุณภาพการพิมพ์อยู่ในระดับที่เหมาะสม การทำงานของเครื่องพิมพ์ชนิดนี้ใช้หลักการสร้างจุด ลงบน กระดาษโดยตรง หัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ มีลักษณะเป็นหัวเข็ม (pin) เมื่อต้องการพิมพ์สิ่งใดลงบนกระดาษ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งที่ประกอบกันเป็น ข้อมูลดังกล่าวจะยื่นลำหน้าหัวเข็มอื่น เพื่อไปกระแทกผ่านผ้าหมึก ลงบนกระดาษ ก็จะทำให้เกิดจุดขึ้น การพิมพ์แบบนี้จะมีเสียงดัง พอสมควร ความคมชัดของข้อมูลบน กระดาษขึ้นอยู่กับจำนวนจุด ถ้าจำนวนจุดยิ่งมากข้อมูลที่พิมพ์ลงบนกระดาษก็ยิ่งคมชัดมากขึ้น ความเร็ว ของเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์อยู่ระหว่าง 200 ถึง 300 ตัวอักษรต่อวินาที หรือประมาณ 1 ถึง 3 หน้าต่อนาที เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ เหมาะสำหรับงานที่พิมพ์แบบฟอร์มที่ต้องการซ้อนแผ่นก๊อป+++ หลาย ๆ ชั้น เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ ใช้กระดาษต่อเนื่องในการพิมพ์ ซึ่งกระดาษประเภทนี้จะมีรูข้างกระดาษทั้งสองเอาให้ หนามเตยของเครื่องพิมพ์เลื่อนกระดาษ

 ข้อดี
1.สามารถพิมพ์ครั้งเดียวได้ หลาย ๆ แผ่น หรือหลาย COPY
ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของเครื่องพิมพ์แบบนี้
2.ประหยัดผ้าหมึกและผ้าหมึกมีราคาถูก และยังใช้ได้กับกระดาษต่อเนื่อง หรือ ชนิดแผ่นก็ได้
3.อะไหล่ และ ค่าซ่อมมีราคาไม่สูงมาก
4.มีความแข็งแรงทนทานในการใช้งานสูง
 ข้อเสีย
1.พิมพ์งานกราฟฟิค ที่มีความละเอียดมาก หรือพิมพ์ภาพสี ไม่ได้
2.พิมพ์งานได้ช้า และมีเสียงดัง
3.มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และ กินกระแสไฟฟ้ามาก
4.ในปัจจุบันราคาค่อนข้างสูงใน
ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ เช่น Epson, Oki, Nec, Fujisu เป็นต้น 

 
หลักการทำงานของแต่ละประเภท
1. เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)
  
    เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์เป็นเครื่องพิมพ์ที่นนิยมใช้งานกันแพร่หลายมากที่สุด เนื่องจากราคา และคุณภาพการพิมพ์อยู่ในระดับที่เหมาะสม การทำงานของเครื่องพิมพ์ชนิดนี้ใช้หลักการสร้างจุด ลงบน กระดาษโดยตรง หัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ มีลักษณะเป็นหัวเข็ม (pin) เมื่อต้องการพิมพ์สิ่งใดลงบนกระดาษ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งที่ประกอบกันเป็น ข้อมูลดังกล่าวจะยื่นลำหน้าหัวเข็มอื่น เพื่อไปกระแทกผ่านผ้าหมึก ลงบนกระดาษ ก็จะทำให้เกิดจุดขึ้น การพิมพ์แบบนี้จะมีเสียงดัง พอสมควร ความคมชัดของข้อมูลบน กระดาษขึ้นอยู่กับจำนวนจุด ถ้าจำนวนจุดยิ่งมากข้อมูลที่พิมพ์ลงบนกระดาษก็ยิ่งคมชัดมากขึ้น ความเร็ว ของเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์อยู่ระหว่าง 200 ถึง 300 ตัวอักษรต่อวินาที หรือประมาณ 1 ถึง 3 หน้าต่อนาที เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ เหมาะสำหรับงานที่พิมพ์แบบฟอร์มที่ต้องการซ้อนแผ่นก๊อปปี้ หลาย ๆ ชั้น เครื่องพิมพ์ชนิดนี้ ใช้กระดาษต่อเนื่องในการพิมพ์ ซึ่งกระดษาประเภทนี้จะมีรูข้างกระดาษทั้งสองเอาให้ หนามเตยของเครื่องพิมพ์เลื่อนกระดาษ
ภาพที่ 1.1 เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)





ภาพที่ 1.2 ขั้นตอนการทำงานเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)




ภาพที่ 1.3 อุปกรณ์และขั้นตอนการทำงานของเครื่่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)
 Epson เครื่องพิมพ์ดอทเมตริกซ์ LQ-310 DOT MATRIX PRINTER



    Epson LQ-310 ออกแบบมาสำหรับพิมพ์งานปริมาณสูง รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและ ขนาดกะทัดรัด ด้วยคุณสมบัติเต็มเปี่ยม เครื่องด็อท เมตริกซ์ พรินเตอร์ Epson LQ-310 แบบ 24-pin มีความเร็วเป็นพิเศษ 
ให้งานพิมพ์คุณภาพสูงและแม่นยำ
การประมวลผลความเร็วสูง
พอใจกับเวลาในการประมวลผลความเร็วสูง ด้วย data buffer ขนาด 128KB ช่วยลดเวลาให้คุณ ให้งานพิมพ์สูงสุดด้วยความเร็วในการพิมพ์ สูงถึง 416 ตัวอักษรต่อวินาที (12 cpi) เร็วกว่าเครื่องพิมพ์รุ่นก่อนเกือบ 40%
เชื่อถือได้ตลอดอายุการใช้งาน
Epson LQ-310 มีอัตราระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการเสียหายครั้งแรก (MTBF) เท่ากับ 10,000 POH (ชั่วโมงการใช้งาน) เครื่องพิมพ์จะ
ช่วยประหยัดค่าไฟ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพงานพิมพ์
สามารถใช้กับกระดาษคาร์บอนหลายชั้น
Epson LQ-310 สามารถพิมพ์บนกระดาษคาร์บอน 4 ชั้น (1 ต้นฉบับ + 3 สำเนา).
ยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ
ด้ีวยพอร์ต USB ในตัว หรือพอร์ตเสริม Serial, Parallel ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย

คุณสมบัติทั่วไป
SKU EP343ELBLXQVANTH-2372421
ความละเอียดสูงสุดในการพิมพ์ (สี) 360 × 360
โมเดล LQ-310
ขนาดกระดาษที่สามารถใช้ได้ A4
Size (cm) 27.5 × 15.4 x 36.2
การรับประกันสินค้า รับประกันสินค้า 1 ปี โดย EPSON
Weight (kg) 4.1 




 
 OKI Dot Matrix Printer ML1190 Plus (White) 
คุณลักษณะเด่น


  • ความเร็วสูง : 333 ตัวอักษร / วินาที
  • พิมพ์สำเนา 5 ชุด : (1 ต้นฉบับ + 4 สำเนา)
  • หน่วยความจำ : 64 KB
  • ช่องต่อเชื่อม 3 ช่อง : มาตราฐาน Parallel, Serial, USB 2.0
  • MTBF : 10,000 ชั่วโมง  6
Other
  • วิธีการพิมพ์ : เข็มกระแทกแบบเมตริกซ์
  • จำนวนเข็มพิมพ์ : 24 เข็มพิมพ์
  • ทิศทางการพิมพ์ : ไป- กลับ 2 ทิศทาง และหัวพิมพ์วิ่งข้ามช่องว่างอัตโนมัติ
  • ความละเอียดการพิมพ์ : สูงสุด 360 x 360 จุดต่อนิ้ว
  • หน่วยความจำ : 64 Kbyte
  • ปุ่มควบคุมปุ่มควบคุม 4 ปุ่ม, ไฟแสดงสถานะ 5 ดวง
  • กระแสไฟฟ้า : 220 - 240 โวลต์
  • ความถี่ : 50 - 60 เฮิร์ตซ์
  • อุณหภูมิ : 5 - 35 องศาเซลเซียส
  • ระดับเสียง : 53 เดซิเบล

Paper Handling

  • การป้อนกระดาษ : 3 ทิศทาง จากด้านล่าง, ด้านบน, ด้านหลัง
  • ระบบป้อนกระดาษ : แบบลูกกลิ้ง (Friction Feed) ด้านบน, แบบหนายเตย (Push Tractor) ด้านหลัง, แบบหนายเตย (Pull Tractor) ด้านบน
  • จำนวนสำเนา 5 ชุด (1 ต้นฉบับ + 4 สำเนา)
  • ความหนากระดาษ : สูงสุด 0.38 มม. (0.013 นิ้ว)
  • ขนาดกระดาษแผ่นเดียว : 76.2 มม. - 245 มม. (3 นิ้ว - 10 นิ้ว)
  • ขนาดกระดาษต่อเนื่อง : 76.2 มม. - 245 มม. (3 นิ้ว - 10 นิ้ว)
  • ขนาดซองจดหมาย : 165 มม. - 241 มม. (6.5 นิ้ว - 9.5 นิ้ว)

Printing Characteristics

  • ระบบปฏิบัติการ : MS Windows 95/98/Me/NT4.0/2000/XP/XP- 64/Server 2003/Server 2003- x64
  • ระยะช่องไฟ : 10, 12, 15, 17, 20 ตัวอักษร/นิ้ว
  • ระยะห่างระหว่างบรรทัด : 4, 6, 8 บรรทัด/นิ้ว หรือโปรแกรมได้ถึง 1/360 นิ้ว
Print Speed
  • แบบร่างความเร็วสูง : 10 ตัว/นิ้ว:333 ตัวอักษร/วินาที
  • แบบร่าง : 12 ตัว/นิ้ว:300 ตัวอักษร/วินาที
  • แบบร่าง : 10 ตัว/นิ้ว:250 ตัวอักษร/วินาที
  • แบบละเอียด : 12 ตัว/นิ้ว:99 ตัวอักษร/วินาที
  • แบบละเอียด : 10 ตัว/นิ้ว83 ตัวอักษร/วินาที
7
Font and Barcode Support

  • รูปแบบตัวอักษร : 15 รูปแบบ - ไทย/อังกฤษ
  • แบบละเอียด (LQ) : Courier 10, Courier, Letter Gothic, Prestige, Orator, Roman, Swiss, Swiss Bold
  • แบบร่าง (Utility) : Draft, High speed draft
  • แบบย่อขยาย (Scalable) : Courier, Roman, Swiss ขนาด 8 ถึง 64 พ้อยต์
  • พิมพ์เที่ยวเดียวครบ 3 ระดับ : Thai one pass LQ, Thai one pass draft
  • รหัสแท่ง (Bar Code) : 8 ชนิด (Code 39, UPC A, UPC E, EAN 8, EAN 13 Interleaved 2 of 5, Code 128, POSTNET)
  • วิธีการพิมพ์ภาษาไทย : พิมพ์ปกติ 3 ระดับ, พิมพ์เที่ยวเดียวครบ 3 ระดับ, พิมพ์แบบอัจฉริยะ
  • รหัสภาษาไทย : U.S.A., MULTILINGUAL (ภาษาอังกฤษ & สัญลักษณ์), Thai- C (สมอ. ไอบีเอ็ม), Thai- KU เกษตร 43 โอลิมเปีย,
  • TIS988- 2533 (สมอ. มาตราฐาน), Thai- ISO1 (สมอ. ต่อหัว), Thai- ISO2 (สมอ. เต็มตัว), Thai- SIC (สมอ. สหวิริยา)


Reliability

  • อายุของหัวพิมพ์ : 200,000,000 ตัวอักษร
  • อายุการใช้งานผ้าหมึก : แบบตลับยาว แถบผ้าหมึกสีดำ อายุการใช้งาน 4 ล้านตัวอักษร
  • ช่วงการทำงาน (MTBF) : 10,000 ชั่วโมง


Interfaces and Emulations

  • การต่อเชื่อม : แบบขนาน (Centronics Parallel), แบบอนุกรม (RS- 232C), แบบ USB 2.0
  • ชุดคำสั่งการพิมพ์ : Epson LQ Esc/P2 และ IBM PPR



2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Inkjet printers)

 
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก หรือ เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต (Inkjet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึกออกมาเป็นหยดเล็กๆ ลงบนกระดาษ เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ เครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกออกตามแต่ละจุดในตำแหน่งที่เครื่องประมวลผลไว้ อย่างแม่นยำ ตามความต้องการของเรา ซึ่งเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะมีคุณภาพดีกว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ โดยรูปที่มีความซับซ้อนมากๆเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ชัดเจนและคมชัดกว่าแบบดอตแมทริกซ์

หลักการทำงาาน
   เครื่องพิมพ์พ่นหมึก เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีคุณภาพการพิมพ์ที่ดีกว่าเครื่องพิมพ์แบบดอตแมทริกซ์ โดยสามารถพิมพ์ตัวอักษรที่มีรูปแบบ และขนาดที่แตกต่งกันมาก ๆ รวมไปถึง พิมพ์งานกราฟิกที่ให้ผลลัพธ์ คมชัดว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ เทคโนโลยีที่เครื่องพิมพ์พ่นหมึก ใช้ในการพิมพ์ก็คือ การพ่นหมึกหยดเล็ก ๆ ไปที่กระดาษ หยดหมึกจะมีขนาดเล็กมาก แต่ละจุดจะอยู่ในตำแหน่งที่เมื่อประกอบกันแล้ว เป็นตัวอักษร หรือรูปภาพ ตามความต้องการ เครื่องพิมพ์พ่นหมึกมีความเร็วในการพิมพ์ มากว่าแบบดอตแมทริกซ์ มีหน่วยวัดความเร็วเป็นในการ พิมพ์เป็น PPM (Page Per Minute) ซึ่งเร็วกว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์มาก อย่างไรก็ตามถ้าเป็นการพิมพ์ กราฟิกหรือตัวอักษรที่มีรูปแบบในเวลาเดียวกัน เครื่องพิมพ์พ่นหมึกจะทำงานได้ช้าลง กระดาษที่ใช้กับเครื่อง พิมพ์พ่นหมึกจะเป็นขนาด 8.5 X 11 นิ้ว หรือ A4 ซึ่งสามารถพิมพ์ได้ ทั้งแนวตั้งที่เรียกว่า “พอร์ทเทรต” (Portrait) และแนวนอนที่เรียกว่า “แลนด์สเคป” (Landscape) โดยกระดาษจะถูกวางเรียงซ้อนกัน อยู่ในถาด และถูกป้อน เข้าไปในเครื่องพิมพ์ที่ละแผ่นเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร
 ข้อดี  
    1.ตัวเครื่องราคาถูกลงมาก
    2.สามารถพิมพ์ภาพสี หรือ ภาพกราฟฟิกได้ดี
    3.มีความเร็วและความละเอียดในการพิมพ์สูง
    4.เสียงในขณะพิมพ์จะเงียบมาก
    5.ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และ มีน้ำหนักเบา
    6.สามารถเติมน้ำหมึกเองได้ในราคาไม่แพง
   

 ข้อเสีย  
    1.อาจจะปัญหาเกี่ยวกับหัวพิมพ์อุดตันได้ง่าย
    2.หมึกพิมพ์แท้มีราคาแพง
    3.ราคาอะไหล่ค่อนข้างแพง
    4.ไม่นิยมซ่อมเพราะค่าซ่อมแพง
    ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีใช้งานและจำหน่ายหลายยี่ห้อ เช่น Epson, Nec, Hewllet Packard, Lexmark, Compaq เป็นต้น    
การทำงานของเครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก
      ตลับหมึกของเครื่องพิมพ์จะเชื่อมต่อกับหัวพิมพ์และสามารถเคลื่อนที่ไปมาใน
แนวขวางของกระดาษที่ถูกดึงเข้ามาทางด้านล่างของหัวพิมพ์ หัวพิมพ์จะมีหมึกสี่สี
ประกอบด้วย สีน้ำเงินเขียว สีเหลือง สีม่วงแดง และสีดำ (ระบบสี) ซึ่งแต่ละตลับจะมีช่องหัวฉีด
ซึ่งต่อเชื่อมกับท่อขนาดเล็กสำหรับให้น้ำหมึกผ่าน




 
กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวต้านทานบางที่อยู่ด้านล่างของหัวฉีดทุกสีของเครื่องพิมพ์ จะทำให้เกิดความร้อนที่ส่วนล่างของหัวฉีด ซึ่งมีอุณหภูมิสูงมาก ในระยะเวลาสั้นๆ หมึกจะเดือดก่อตัวเป็นไอ จากนั้นก็จะเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมาจากด้านล่างไอจะลอยขึ้นมาดันน้ำหมึกผ่านท่อขนาดเล็ก ทำให้น้ำหมึกพ่นออกมาไปยังกระดาษ ปริมาณน้ำหมึกที่พ่นออกมาจะน้อยมากประมาณหนึ่งในล้านของหยดน้ำปกติ การทำให้เกิดตัวอักษรหนึ่งตัวต้องใช้จุดหมึกมากกว่าหนึ่งจุดแล้วแต่ข้อมูลที่มีอยู่ในตาราง เมื่อตัวต้านทานเย็นตัวลงฟองอากาศที่ขยายตัวก็จะหายไปพร้อมกับดูดน้ำหมึกเข้ามาในหัวฉีดใหม่เตรียมพร้อมสำหรับการพ่นครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีให้การพ่นหมึกมีมากมาย ต่อไปเป็นภาพตัวอย่าง การพ่นหมึกของตลับหมึก


เครื่องพิมพ์แบบหมึกแข็ง

เครื่องพิมพ์ประเภทนี้จะมีการทำงานคล้ายกับเครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก แต่หมึกที่ใช้ จะอยู่ในสถานะของแข็งที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งจะถูกใส่เข้าไปในเครื่องพิมพ์เป็นก้อนซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละสี และที่เครื่องพิมพ์จะมีช่อง 4 ช่อง สำหรับสีที่แตกต่างกัน 4 สี เพื่อไม่ให้เกิดการใส่สีผิด หลักการทำงานคือ ก้อนสีแต่ละก้อนจะถูกใส่ลงไปในช่องตามสีของตัวเอง
ต่อมาเครื่องพิมพ์จะสร้างความร้อนเพื่อหลอมละลายก้อนหมึกให้เป็นของเหลวและจะอยู่ในที่เก็บที่หัวพิมพ์โดยแยกสีตามช่อง ที่หัวพิมพ์จะประกอบด้วยท่อที่เรียงในแนวตั้ง และมีแนวคอลัมน์ 4 คอลัมน์ สำหรับแต่ละสี ความยาวของหัวพิมพ์อาจเท่ากับความกว้างของกระดาษ ทำให้สามารถสร้างภาพด้วยการผ่านเพียงครั้งเดียวได้ แต่ละท่อจะควบคุมด้วย Piezo Controller ซึ่งจะปล่อยกระแสไฟฟ้าไหลเข้าไปที่ผนังด้านหลังท่อสีแต่ละสีด้วยปริมาณที่แตกต่างกัน ผนัง Piezo คือ ผนังที่ทำจากสารคริสตัลที่ความอ่อนตัวต่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไป ในสภาวะปกติผนังจะโค้งไปทางด้านหลัง ทำให้หมึกถูกดูดเข้าไปตามปริมาตรที่พองออก
 เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านเข้าไปผนังจะโค้งเข้า หาหัวฉีดทำให้หมึกถูกดันออกมากระทบดรัมที่ฉาบด้วยน้ำมันซิลิโคน ดรัมจะมีอุณหภูมิสูงเล็กน้อยเพื่อให้หมึกไม่กลับมาแข็งตัวอีก กระดาษจะถูกดูดเข้าไปในเครื่องพิมพ์ผ่านดรัมโดยมีแรงกดจากลูกลิ้งที่อยู่ด้านบนหมึกที่ติดอยู่ที่ดรัมจะติดกระดาษโดยมีลูกลิ้งที่อยู่ด้านบนเป็นตัวช่วย หมึกจะแห้งและแข็งตัวเมื่อผ่านลูกกลิ้งอุณหภูมิปกติ สองอัน ดรัมจะหมุน 28 รอบเพื่อส่งหมึกไปยังกระดาษจนทั่วทั้งแผ่น

การพิจารณาซื้อเครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก
    1. คุณภาพของงาน เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะวัดคุณภาพ กันที่ความสามารถในการพิมพ์จุดต่อตารางนิ้ว (Dots Per Inch : DPI) โดยตัวเลขจะเป็นจำนวนจุดทางแนวนอน X จุดทางแนวตั้ง เช่น 300 X 300 Dpi เป็นต้น ซึ่งค่าจำนวนตัวเลขนี้ยิ่งมากก็ยิ่งดี เพราะจะสามารถพิมพ์ได้ละเอียดมากขึ้น
2. ความเร็วในการพิมพ์งาน โดยปรกติแล้วจะวัดเป็นจำนวนแผ่นต่อนาที โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ การพิมพ์แบบร่าง และการพิมพ์แบบมาตรฐาน ซึ่งถ้าได้จำนวนแผ่นต่อนาที มาก นั่นหมายความว่า สามารถพิมพ์งานได้รวดเร็ว
3. จำนวนหน้าที่สามารถพิพม์ได้ ต่อการเปลี่ยนหมึกหนึ่งครั้ง เครื่องพิมพ์ แบบพ่นหมึกนี้โดยมากแล้วราคามักจะไม่แพงมาก อยู่ทีประมาณ 3400 บาท - 6000 บาท แต่ราคาหมึกพิมพ์นั้นค่อยข้างแพงมาก เมื่อเทียบราคาต่อแผ่น กับเครื่องพิมพ์แบบอื่นๆ ดังนี้นจำนวนหน้าที่สามารถพิมพ์ได้ ต่อการเปลี่ยนหมึกหนึ่งครั้ง จึงถือว่าจำเป็นมากในการตัดสินใจเลือกใช้งาน
4. ราคาของเครื่องพิมพ์ และราคาของหมึก เครื่องพิมพ์บางรุ่นราคาถูก แต่ หมึกพิมพ์มีราคาแพง เครื่องพิมพ์บางรุ่นมีราคาแพง แต่ราคาของหมึกพิมพ์ถูก ดังนั้นในการเลือกใช้งานต้องคำนึงถึงราคา ด้วย ถ้าซื้อเครื่องพิมพ์ที่มีราคาถูกมา แต่ต้องการพิมพ์งานที่มีจำนวนมาก ก็ต้องสิ้นเปลือง กับรายจ่ายที่ต้องเสียไปกับค่าหมึกเป็นจำนวนมาก

กระดาษที่ใช้พิมพ์

คุณภาพของกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์ก็มีผลต่อคุณภาพงานที่ได้อย่างมาก ถ้าใช้กระดาษธรรมดาที่ไม่เคลือบแว็กซ์ กระดาษเนื้อหยาบจะทำให้เกิดการสะท้อนแสงแบบไม่เป็นระเบียบทำให้ความสว่างของภาพลดลง และจะดูดซับสีในปริมาณากทำให้สิ้นเปลืองสี และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาพมัว แต่ถ้าเป็นกระดาษเคลือบแว็กซ์ จะเป็นกระดาษที่เหมาะสำหรับการพิมพ์สีอย่างมาก เนื่องจากสีจะแห้งอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการดูดซับสีมากเกินไป อีกทั้งด้วยเนื้อกระดาษที่ละเอียดและฉาบด้วยแว็กซ์ทำให้การสะท้อนแสงเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ ภาพที่ได้จึงสว่างมากขึ้น และคมชัดมากขึ้น






ภาพบิตแมบและเอาต์ไลน์ต่างกันอย่างไร

ภาพบิตแมบ ในคอมพิวเตอร์เป็นไปตามแนวคิดของ Getenberg ซึ่งจะกำหนดรูปแบบของตัวอักษรไว้หมดแล้ว ข้อดีในการใช้งานคือ สามารถพิมพ์งานได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสีย คือ มีฟอนต์ให้จำกัด ถ้าฮาร์ดก๊อปปี้จำเป็นต้องมีภาพกราฟฟิก ซอฟต์แวร์ของคุณต้องสามารถส่งคำสั่งที่เครื่องพิมพ์เข้าใจไปที่เครื่องพิมพ์ด้วย เมื่อคุณสั่งให้พิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์จะส่งคำสั่งไปบอกเครื่องพิมพ์ก่อนว่าหน่วยความจำตรงตำแหน่งไหนในเครื่องพิมพ์จะถูกใช้งาน จากนั้นตัวอักษรแต่ละตัว หรือตัวอักขระต่างๆ จะถูกส่งไปยังเครื่องในรูปแบบของ ASCII code เท่านั้น จากนั้นโปรเซสเซอร์บนเครื่องพิมพ์จะทำการเทียบรหัส ASCII code กับตารางแพทเทินของจุดของตัวอักษร และเอาแพทเทินนั้นมาพิมพ์ กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆจนกว่าจะพิมพ์ครบตามที่กำหนด

เอาต์ไลน์ หรือเว็กเตอร์ฟอนต์จะทำงานร่วมกับ PDL (Page Description Language) หรือ Adobe Postscript หรือ Microsoft TrueType ด้วยวิธีนี้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอักษรหรือภาพกราฟฟิกจะถูกมองเป็นกราฟฟิกทั้งหมด เท็กซ์และกราฟฟิกที่ใช้งานจะถูกแปลงเป็นชุดคำสั่งที่เครื่องพิมพ์สามารถเข้าใจได้ ซึ่งเป็นคำสั่ง PDL ที่ระบุตำแหน่งของจุดบนหน้ากระดาษ PDL สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วใกล้เคียงกับเครื่องพิมพ์เมตริกซ์ เอาต์ไลน์ฟอนต์มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า สามารถปรับขนาด และคุณสมบัติพิเศษอื่นๆได้  หลักการทำงานของเอาต์ไลน์ฟอนต์ คือ อาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์ อธิบายลักษณะของตัวอักขระต่างๆ เครื่องพิมพ์บางรุ่นจะมี PDL มาด้วยซึ่งจะเป็นตัวบอกเครื่องพิมพ์ว่าจะวางจุดบนตำแหน่งใดบนกระดาษสำหรับตัวอักษรแต่ละตัว สำหรับเครื่องพิมพ์ที่ไม่มี PDL มาด้วย ตัวไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์จะเป็นตัวเปลี่ยนคำสั่งให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องพิมพ์ต้องการ
เมื่อคุณสั่งพิมพ์งาน โปรแกรมจะส่งชุดคำสั่ง PDL ที่เปลี่ยนไปเป็นอัลกอลิธึม หรือสูตรทางคณิตศาสตร์ โดยอัลกอลิธึมจะอธิบายว่าตัวอักษรประกอบด้วยเส้นตรงหรือเส้นโค้งใดบ้าง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยข้อมูลสำหรับปรับปรุงราบละเอียดของอักษรในกรณีที่อักษรนั้นมีขนาดใหญ่หรือเล็กมาก คำสั่งจะส่งค่าตัวแปรไปที่สูตรเพื่อเปลี่ยนขนาดหรือคุณสมบัติบางประการของเอาต์ไลน์ฟอนต์
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นคำสั่งที่บอกให้เครื่องพิมพ์ทำงานง่ายๆ ดังนี้ ให้สร้างเส้นแนวนอนกว้าง 10 พอยน์ เป็นต้น การพิมพ์แต่ละครั้งจะส่งตัวอักษรไปทั้งหน้าโดยอยู่ในรูปแบบกราฟิกทั้งหมดทำให้การประมวลผลช้ากว่าการพิมพ์ด้วยบิตแมปฟอนต์




3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser printer)



 

เครื่องพิมพ์เลเซอร์ เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก และราคาเครื่องพิมพ์ก็มีราคาสูงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะทำงานได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก และคุณภาพของผลลัพธ์ทั้งด้านความคมชัดและรายละเอียดทำออกมาได้ดีกว่าแบบพ่น หมึกมาก

ขั้นตอนการทำงานของเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ 

เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์มีความละเอียดตั้งแต่ 600 x 600 จุดต่อตารางนิ้ว 1,200 x 1,200 จุดต่อตารางนิ้ว ความเร็วในการพิมพ์ของเครื่องพรินเตอร์ประเภทนี้จะความเร็วที่ 15 แผ่นต่อนาทีขึ้นไปในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์แบบขาวดำ (Mono Laser Printer) และ 12 แผ่นต่อนาทีขึ้นไปในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์แบบสี (Color Laser Printer) เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ส่วนใหญ่จะมีหน่วยความจำที่มากกว่าเครื่องอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ การที่มีหน่วยความจำมากนี่เองเป็นข้อดีให้เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์สามารถรองรับงานพิมพ์ที่มีปริมาณที่มากได้ สามารถพิมพ์งานได้อย่างต่อเนื่อง ความจุกระดาษในเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ก็จะมีความจุที่มากกว่าเครื่องอิงค์เจ็ททำให้สามารถพิมพ์งานได้ต่อเนื่องกว่า เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ในบางรุ่นสามารถเพิ่มถาดกระดาษได้อีก


Single Pass Color Technology
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ได้มีเทคโนโลยีใหม่ 3 รูปแบบที่มีความทันสมัย ซึ่งพร้อมที่จะเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีรุ่นเก่าอย่าง 4-Pass ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเทคโนโลยีแต่ละตัวก็จะใช้วิธีที่แตกต่างกันในการที่จะพิมพ์สีทั้งสี่ลงบนชิ้นงาน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ เทคโนโลยีทั้งสามจะทำการพิมพ์สีทั้งสี่ลงบนงานพิมพ์ในครั้งเดียว หรืออาจจะเรียกว่าเป็นเครื่องพรินเตอร์แบบ Single Pass นั่นเอง

 เทคโนโลยี Single Pass Color

ระบบ Single Pass นี้จะช่วยประหยัดให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น พร้อมกับสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งงานพิมพ์ที่ได้ยังมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานพิมพ์ประเภทใดก็ตาม หนึ่งในเทคโนโลยีที่กล่าวถึงนี้ก็คือ Single Pass Color Laser หรืออาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าระบบการพิมพ์สีแบบ Tandem Laser ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ได้มีการประยุกต์การทำงานมาจากเครื่องพรินเตอร์เลเซอร์แบบขาวดำรุ่นเก่า เทคโนโลยีที่สองจะมีลักษณะเหมือนกับเทคโนโลยีของเครื่องพรินเตอร์เลเซอร์อื่นๆ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานเลเซอร์มาใช้หลอดไฟประเภท LED (Light Emitting Diode) แทน และเทคโนโลยีสุดท้ายก็คือ เทคโนโลยีของเครื่องพรินเตอร์เลเซอร์ ที่ใช้ สำหรับหมึกสีนั้น จะกลายมาเป็นสารประเภทของแข็งแทน ดังนั้นจึงไม่ต้องคิดถึงหมึกที่เป็นของเหลวอยู่ในตลับอีกต่อไป




The Single Pass Color Laser Printer
เครื่องพรินเตอร์เลเซอร์ Single Pass Color นี้จะประกอบไปด้วยเลเซอร์จำนวน 4 ชุด มีตลับหมึกแต่ละสีแยกจากกัน และมีลูกกลิ้งจำนวน 4 ชุดเช่นเดียวกัน ลูกกลิ้งและอุปกรณ์ทั้งหมดจะวางเรียงต่อกันทั้ง 4 ชุด ดังนั้นเมื่อกระดาษถูกป้อนผ่านเข้าไปยังเครื่องพรินเตอร์อุปกรณ์ทั้งสี่ชุดก็จะทำการพิมพ์สีต่างๆ ทั้ง 4 สีลงบนกระดาษในเวลาที่พร้อมๆ กัน ด้วยการทำงานในลักษณะดังกล่าวนี้จึงทำให้เครื่องพรินเตอร์สามารถพิมพ์สีทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ไม่เคยมีมาก่อนในเครื่องพรินเตอร์แบบเดสก์ทอป และเน็ตเวิร์ก

The Single Pass LED Color Printer
เครื่องพรินเตอร์ LED Color จะมีเทคโนโนยีและลักษณะการทำงานเหมือนกับรูปแบบ Single Pass Color ทุกประการ ยกเว้นส่วนของเลเซอร์ เพราะเครื่องพรินเตอร์ประเภทนี้จะใช้หลอดไฟประเภท LED (Light Emitting Diodes) มาใช้งานแทนเลเซอร์ ส่วนการทำงานอื่นๆ ก็ยังคงเหมือนกัน คือ จะมีลูกกลิ้งแยกต่างหากจำนวน 4 ชุด มีหมึกสี 4 ตลับแยกจากกัน และเมื่อเครื่องพรินเตอร์ทำการป้อนกระดาษเข้ามา เครื่องพรินเตอร์ก็จะพิมพ์สีต่างๆ ทั้ง 4 สี พร้อมๆ กัน


The Solid Ink Color Printer
เครื่องพรินเตอร์ Solid Ink Color จะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างไปจากสองเทคโนโลยีที่กล่าวถึงมาก่อนหน้า และแทนที่จะใช้ตลับหมึกซึ่งบรรจุน้ำหมึกเป็นของเหลวก็จะเปลี่ยนมาใช้หมึกซึ่งมาในลักษณะของก้อนแข็งซึ่งอยู่ในรูปแบบของเรซิน เครื่องพรินเตอร์จะทำการหลอมละลายก้อนหมึกและพ่นหมึกทั้งสี่ลงบนกระดาษ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะใช้ลูกกลิ้งและหัวพิมพ์เพียงชุดเดียวเท่านั้น ลักษณะการทำงานของเครื่องพรินเตอร์ประเภทนี้จะมีลักษณะเช่นเดียวกับการพิมพ์ในระบบออฟเซ็ท

เราอาจจะกล่าวได้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะมีการพิมพ์โดยใช้วิธีการที่คล้ายกับเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทเป็นอย่างมาก แต่เครื่องพรินเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะสามารถพิมพ์งานออกมาได้ด้วยความเร็วสูง ความเร็วในการพิมพ์ด้วยเครื่องพรินเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ จะเร็วเทียบเท่าหรือเร็วกว่าเครื่องพรินเตอร์เลเซอร์ประเภท 4-Pass และงานพิมพ์ที่ได้นั้นจะมีความมันวาว และจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเมื่องานพิมพ์ดังกล่าวโดนน้ำเหมือนกับงานพิมพ์ที่ได้จากเครื่องพรินเตอร์ที่ใช้หมึกเป็นของเหลว

4. พล็อตเตอร์ (Plotter)
พล็อตเตอร์ (Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์แบบที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลลงบนกระดาษ ซึ่งเครื่องพิมพ์ประเภทนี้เหมาะกับงานเขียนแบบของวิศวกรและสถาปนิก และเครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาแพงที่สุดในเครื่องพิมพ์ประเภทต่างๆ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ใบงานที่ 6 สแกนเนอร์ (Scanner)

ชุดคอมคอมพิวเตอร์สำหรับโปรแกรมกราฟิกและงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์

ใบงานที่ 7 เรื่อง มาตรฐานระบบเสียงของคอมพิวเตอร์ และ การจัดวางลำโพง